รู้หรือไม่ ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
การกระพริบตาเป็นกลไกอัตโนมัติอย่างหนึ่งของร่างกายมุนษย์ ซึ่งโดยปกติแล้วใน 1 วันเรากระพริบตาโดยเฉลี่ยถึง 20,000 ครั้งเลยทีเดียว และใน 1 นาที เรากระพริบตาเฉลี่ยอยู่ที่ 15 – 20 ครั้ง แต่ในผู้ที่มีปัญหาทางสายตา สายตาไม่ดี กล้ามเนื้อตานั้นจะเกรงตัว ทำให้จำนวนครั้งในการกระพริบตานั้นลดลงมาก ยังรวมไปถึงการอ่านหนังสือหรืออยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานติดต่อกันอาจทำให้กล้ามเนื้อตาเกรงและเกิดการอ่อนล้า ดังนั้นจึงควรกระตุ้นกล้ามเนื้อตาด้วยการหลับตาสักพักแล้วลืมตาขึ้น เพื่อช่วยในการคลายการล้าของดวงตา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมกล้ามเนื้อตาได้อีกด้วย ในการกระพริบตานั้นเราควรหลับตาเบาๆอย่างเป็นธรรมชาติไม่หลับตาแน่นจนเกินไป
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
โดยกลไกที่เกิดขึ้นรวดเร็วที่สุดในร่างกายมนุษย์เราคือการกระพริบตา
คนเรานั้นใช้เวลาเพียง 100 – 150 มิลลิวินาทีในการกระพริบตา นั่นหมายความว่า ภายใน 1 วินาทีเราสามารถกระพริบตาโดยเฉลี่ยได้ถึง 5 ครั้ง และโดยเฉลี่ยคนเราสามารถกระพริบตาในทุกๆ 2 – 3 วินาทีนั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะว่า การกระพริบตานั้นเป็นการป้องกันอันตรายให้กับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง ควัน หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่จะเข้าสู่ดวงตาของเรา
ข้อดีของการกระพริบตา
เมื่อเวลาที่เรากระพริบตายังช่วยทำให้ดวงตาเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะบริเวณขอบดวงตาของมนุษย์เรานั้นจะมีต่อมไขมันอยู่รอบๆ ถึง 20 – 30 ต่อม และเมื่อเวลาที่เรากระพริบตา ต่อมไขมันทั้งหมดก็จะผลิตน้ำมันออกมาที่บริเวณด้านหัวตา ทุกครั้งที่เรากระพริบตาจึงช่วยให้ดวงตาของเราชุ่มชื้นอยู่เสมอ
นอกจากการกระพริบตานั้นทำให้ดวงตาชุ่มชื้นได้แล้ว ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโอซากา ประเทศญี่ปุ่นยังพบอีกว่า การกระพริบตานั้นยังช่วยให้สมองได้พักอีกด้วย และยังมีการศึกษาอีกชิ้นพบว่าเมื่อเราโกหกนั้น เราจะกระพริบตาน้อยลง แต่หากหลังจากพูดโกหกจบลงแล้วเราจะกระพริบตาถี่กว่าคนที่พูดความจริงนั่นเอง
และยังมีผลสถิติออกมาอีกว่า ผู้ชายนั้นสามารถเพ่งตาได้นานกว่าผู้หญิงถึงสองเท่าเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราอ่านหนังสือ ผู้หญิงจะใช้เวลาในการกระพริบตาเฉลี่ยอยู่ที่ 5 วินาที ในขณะเดียวกันทางผู้ชายนั้นจะใช้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 12 วินาทีจึงจะกระพริบตานั้นเอง
หากลองฝืนการกระพริบตาเราจะรู้สึกได้เลยว่าดวงตานั้นจะแห้งมากแล้วยังแสบตาอีกด้วย
นอกจากนี้การกระพริบตานั้นยังมีข้อดีอยู่ด้วย ดังนี้
เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือฝุ่นละอองจากผิวตา
เมื่อมีฝุ่นละอองปลิวมาเข้าตาหรือเมื่อมีสารเคมีใดๆมากระทบผิวตา ร่างกายเราจะสั่งอัตโนมัติให้มีการกระพริบตา เนื่องจากกลไกเหล่านี้เป็นกลไกการตอบสนองของร่างกายตามธรรมชาติ โดยตอบสนองต่อสิ่งที่มากระทบดวงตาเพื่อไม่ให้ทำอันตรายกับดวงตาเราได้ การกระพริบตาช่วยกวาดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามากระทบดวงตาให้ออกไปจากผิวดวงตาและมากองอยู่ที่ขอบตาด้านล่าง ทำให้กำจัดต่อได้ง่าย
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวตา
ตาของเราต้องสัมผัสกับแสงแดดและอากาศ อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง ระคายเคืองตาและแสบตาได้ การกระพริบตานั้นเป็นการให้น้ำตามาหล่อเลี้ยงและฉาบที่ผิวตาเพื่อให้เกิความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคืองและการแสบตา ยิ่งเมื่ออยู่ในที่แสงจ้ามาก การใช้สายตาที่หนักอย่าง การอ่านหนังสือหรือการให้สายตาจ้องหน้าจอคอมเป็นเวลานานทำให้ตาแห้งง่าย อัตราในการกระพริบตาจะสูงขึ้นกว่าเวลาปกติ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ดวงตาทำงานหนักเกินไปและเพิ่มความชุ่มชื้นในการหล่อเลี้ยงดวงตาด้วย