รู้หรือไม่ น้ำเต้าหู้ ที่ทำจากถั่วเหลืองนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ
เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมายาวนาน ซึ่งน้ำเต้าหู้นั้นผลิตมาจากถั่วเหลืองนั่นเอง โดยนำมาผ่านกระบวนการคั้นจนได้ออกมาเป็นน้ำสีขาวที่มีกลิ่นหอมและยังให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำเต้าหู้ที่มาจากถั่วเหลืองนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ
ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้
อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสูง
โดยในน้ำเต้าหู้จะประกอบไปด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน แคลเซียม ซีลีเนียม สังกะสี ฟอสฟอรัส กรดอะมิโนที่มีมากกว่า 18 ชนิด และยังมีธาตุเหล็กรวมไปถึงวิตามินที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และอีกมากมาย
บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ในน้ำเต้าหู้นั้นยังอุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งช่วยลดการเสื่อมสภาพของกระดูก
ช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ซึ่งในน้ำเต้าหู้มีระดับน้ำตาลและอีซูลีนน้อยกว่าในนมชนิดอื่นๆ จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน แถมยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่อีกด้วย
มีไขมันอิ่มตัวที่เหมาะสม
น้ำเต้าหู้ประกอบไปด้วยไขมันหลายชนิดทั้งไขมันไม่อิ่มตัว 63% ไขมันอิ่มตัว 15% และยังมีไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเดี่ยวอีก 24% ซึ่งช่วยทำให้ไม่เกิดไขมันสะสมตามร่างกายจนเป็นผลเสีย ทั้งนี้ยังมีกรดไลโนเลอิกและกรดไขมันอื่นๆที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลงได้
ซึ่งประโยชน์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเพียงแค่บางส่วนเพียงเท่านั้น ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้นั้นยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดอาการท้องผูก บำรุงสมอง บำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยทอง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง แต่ทั้งนี้ในน้ำเต้าหู้ก็ยังมีโทษที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนอยู่ด้วย
โทษของน้ำเต้าหู้
เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในผู้หญิง
หากร่างกายได้รับปริมาณโปรตีนมาเกินไป อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ อีกทั้งยังทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้นง่ายอีกด้วย
เสี่ยงต่อการเกิดน้ำตาลในเลือดสูง
เนื่องจากน้ำเต้าหู้ในหลายร้านอาจมีการปรุงแต่งรสให้อร่อยถูกปากผู้บริโภค แต่หากดื่มน้ำเต้าหู้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันในภายหลังได้
ส่งผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์
ต่อมไทรอยด์นั้นทำหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์ต่างๆ แต่หากน้ำเต้าหู้กลับส่งผลต่อการปิดไอโอดีนซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของต่อมไทรอยด์ โดยทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย รู้สึกเพลียง่าย เบื่ออาหารและก่อให้เกิดความเครียดได้
เสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆอีกหลายโรค
ถั่วเหลืองที่เป็นวัตถุดิบในการทำน้ำเต้าหู้นั้น มักมีสารไกลโฟเซตที่ติดปนมากับถั่วเหลือง ซึ่งจะพบมากในถั่วเหลืองจีเอ็มโอ ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆกว่า 20 โรค อาทิเช่น โรคความดันโลหิตสูง ลำไส้แปรปรวน การติดเชื้อในลำไส้ โรคเบาหวาน โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง อัลไซเมอร์ กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาต อุจจาระร่วง สมองเสื่อม พาร์กินสัน ออทิซึม หลอดเลือดในสมอง และไตวาย
มีแนวโน้มต่อการเป็นหมัน
โดยจากงานวิจัยหลายตัวทำให้พบว่าการดื่มน้ำเต้าหู้ในปริมาณที่มากนั้นส่งผลให้ต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้ชายทำงานได้ไม่เต็มที่อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นหมันหรืออาจทำให้ในอนาคตนั้นมีบุตรยาก
อย่างไรก็ตามน้ำเต้าหู้เก็ยังคงถือเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่หลายคนเลือกดื่ม ซึ่งแน่นอนว่าควรดื่มในปริมาณที่พอดีในแต่ละวันและไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้ที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ไม่มีโรคภัยมารบกวน เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค